หน้าเว็บ

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เตือนภัยค่ะ

     ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เกษตรกรกลุ่มที่ใช้สารเคมีกำจัดแมลงมีแนวโน้มหรือมีความเสี่ยงที่จะพบความผิดปกติทางคลินิกหรือมีอาการพิษจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และมีแนวโน้มเกิดโรคมะเร็งมากกว่ากลุ่มที่ไม่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และจากผลการวิจัยยังพบว่าเกษตรกรที่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชจะมีอาการพิษทางระบบประสาทอื่น เช่น อาการอ่อนเพลีย ปวดหัว มึนงง เป็นต้น
เพื่อให้เกิดกระแสของความรู้ความเข้าใจและนำไปสู่การปฏิบัติดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างถูกต้อง กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ริเริ่มโครงการ"เกษตรกรปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัยสมุนไพรล้างพิษ กายจิตผ่องใส" ขึ้น โดยเป็นความมุ่งหมายที่จะให้ทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคทั่วไปปลอดภัยปลอดโรคจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่อยู่ในผักผลไม้ ด้วยความร่วมมือจาก 4 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้แก่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมควบคุมโรค กรมสุขภาพจิต และกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
การดำเนินงานในปีนี้ตั้งเป้าหมายดูแลเกษตรกร 840,000 คนทั่วประเทศ ให้ได้รับการตรวจคัดกรองสุขภาพตนเองฟรี โดยมีสำนักงานสาธารณสุขในแต่ละจังหวัดต่างๆ กับอาสาสมัครสาธารณสุขอีกกว่า 8,400 คน ร่วมกันค้นหาเกษตรกรที่มีความเสี่ยงและตรวจเลือดเพื่อหาสารพิษตกค้าง หากพบว่าเกษตรกรมีสารพิษอยู่ในเลือดในระดับที่ไม่ปลอดภัยก็จะรีบดำเนินการรักษาได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ยังมีมาตรการที่จะส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคขึ้นในตลาดขายส่งใหญ่ๆ ในประเทศที่มีอยู่ประมาณ 28 แห่ง ซึ่งจะมีการตรวจติดตามในทุกๆ 3 เดือน อย่างต่อเนื่อง
นพ.สถาพร วงษ์เจริญ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้มีการดำเนินงานกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาชุดทดสอบอย่างง่ายเพื่อให้สามารถนำมาใช้ป้องกันเฝ้าระวังภัยสุขภาพให้กับผู้บริโภคในพื้นที่ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ซึ่งจะมีการสื่อผ่านไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อจะได้สามารถกระจายการตรวจสอบเฝ้าระวังความปลอดภัยไปยังผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ก่อให้เกิดกระบวนการในการพึ่งพาตนเองอย่างง่ายๆ ขึ้นในชุมชน และกระตุ้นให้เกิดความตระหนักในเรื่องของความปลอดภัยต่อสุขภาพกันมากขึ้น
สำหรับบทบาทหน้าที่ ที่ได้มีส่วนเข้าไปร่วมแก้ไขปัญหานี้ นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ บอกว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นอีกหนึ่งภาคส่วนที่เข้ามามีหน้าที่บรรเทาปัญหานี้ โดยการคัดค้นและพัฒนาชุดทดสอบอย่างง่ายขึ้น เช่น ชุดทดสอบสารเคมีกำจัดแมลงในผักผลไม้และธัญพืช เพื่อนำไปใช้ในการตรวจสอบเฝ้าระวังความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์จากภาคเกษตร ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในตลาดสด ซุปเปอร์มาเก็ต หรือร้านค้าซึ่งจะมี อสม.ที่ผ่านการฝึกอบรมให้มีความรู้ความสามารถในการใช้ชุดทดสอบเป็นผู้นำไปใช้ในการตรวจสอบเฝ้าระวังในชุมชนของตนเองเพื่อเป็นการปกป้องสุขภาพของทั้งเกษตรกรและประชาชนในชุมชน นอกจากนี้ทางกรมวิทย์ฯ ยังได้ส่งเสริมให้ทั้งผู้ประกอบการ ผู้ผลิตและจำหน่ายได้มีระบบตรวจสอบสารพิษตกค้างในผักและผลไม้ก่อนที่จะนำไปจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค โดยจะมอบป้ายตราสัญลักษณ์รับรองคุณภาพระบบตรวจสอบสารพิษตกค้างในผักสดผลไม้สดให้แก่ผู้ประกอบการที่ผ่านเกณฑ์ ซึ่งเท่ากับเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในเรื่องของความปลอดภัยและเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตลาดนั้นๆ ด้วย ขณะนี้มีผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองแล้ว 20 แห่งในจำนวนดังกล่าวมีตลาดสดค้าส่ง 3 แห่ง คือ ตลาดศรีเมือง จ.ราชบุรี ตลาดสี่มุมเมือง และตลาดไท จ.ปทุมธานี
ทางด้านนางกณเกศ อารีกุล ผู้บริหารตลาดโพหวาย จ.สุราษฎร์ธานี กล่วเพิ่มเติมว่าปัจจุบันมีตลาดสดหลายแห่งที่ตื่นตัวและคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคมากขึ้น รวมทั้งที่ตลาดโพหวายด้วย นอกจากการปรับปรุงการสุขาภิบาลของตลาดแล้วปัญหาสารเคมีปนเปื้อนในพืชผักผลไม้ ก็เป็นสิ่งที่ตลาดได้ให้ความสำคัญเช่นกัน โดยได้เตรียมประสานกับเทศบาลโพหวาย เพื่อขอรับการสนับสนุนการจัดตั้งจุดรับบริการตรวจสอบความปลอดภัยให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ด้วยการใช้ชุดทดสอบอย่างง่าย จากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11(สุราษฏร์ธานี) ขึ้นในพื้นที่ของตลาด เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่มาจับจ่ายในตลาดโพหวายและกระตุ้นให้พ่อค้าแม่ค้าที่นำผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรมาขายเกิดการตื่นตัวและใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยของผู้บริโภคจากปัญหาสารเคมีตกค้างด้วยและนี่ก็จะเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่จะนำไปสู่กระบวนการในการกำกับดูแล และกระตุ้นให้ผู้ขายเกิดความรับผิดชอบต่อลูกค้า ด้วยการคัดสรรหรือตรวจสอบแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ที่จะต้องมีคุณภาพมาตรฐานและมั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อผู้บริโภค ส่วนตัวของผู้บริโภคเองก็สามารถตรวจสอบได้ และเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีความปลอดภัย ผลที่ได้ก็คือตลาดก็จะได้รับการยอมรับ
กระบวนการต่างๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพราะสุดท้ายแล้ว สิ่งที่ทุกฝ่ายจะได้รับก็คือความปลอดภัยต่อสุขภาพนั่นเอง..

ภัยใกล้ตัว -- ข่าวภัยใกล้ตัว

ภัยใกล้ตัว -- ข่าวภัยใกล้ตัว


สารเคมีที่เจือปนอยู่ในพืช ผัก ผลไม้ ถือเป็นภัยใกล้ตัวที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในหมู่เกษตรกรและผู้ผลิต จากข้อมูลของ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ที่ได้ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนวิจัยและประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพเกษตรกรทั้ง 4 ภาคของประเทศที่ได้รับสัมผัส สารเคมีกำจัดแมลง ในกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,217 คน พบว่า เกษตรกรไทยกว่าร้อยละ 30 มีปริมาณสารเคมีกำจัดศัตรูพืชปนอยู่ในกระแสเลือดและกำลังอยู่ในภาวะที่ไม่ปลอดภัย !!

วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สื่อญี่ปุ่นกลับโหวตให้ชุดนักเรียนของไทยเป็นชุดนักเรียนที่เซ็ก ซี่ที่สุด

ทราบกันดีว่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นดินแดนแห่งแฟชั่นที่ล้ำเทรนด์สุด ๆ มาทุกยุคทุกสมัย แม้แต่ชุดนักเรียนที่นักเรียนสาวญี่ปุ่นสวมใส่ ก็ยังดูน่ารักสมวัยแฝงด้วยแฟชั่นนิดๆ เหมือนกัน แต่มีเรื่องที่ไม่ น่าเชื่อเกิดขึ้น เมื่อบรรดาสื่อญี่ปุ่นกลับโหวตให้ชุดนักเรียนของไทยเป็นชุดนักเรียนที่เซ็ก ซี่ที่สุดมากกว่าชุดนักเรียนของประเทศญี่ปุ่นเองเสียอีก
โดย หนังสือพิมพ์หลายฉบับของญี่ปุ่น ได้รายงานข่าวว่า จากผลการสำรวจประเมินเครื่องแบบนักเรียน ส่วนใหญ่ยกให้เครื่องแบบชุดนักเรียนของประเทศไทยเป็น เครื่องแบบนักเรียนที่ เซ็กซี่ที่สุด ดังที่เห็นจากนักศึกษาหญิงบางคนใส่เสื้อเชิ้ตรัดติ้ว มองเห็นสัดส่วน ส่วนเว้า ส่วนโค้งของร่างกายอย่างชัดเจน แถมสาวบางคนยังใส่กระโปรงสั้นจุ๊ด มีความยาวไม่ถึงหนึ่งคืบเสียด้วยซ้ำ
ไทย ครองอันดับ เครื่องแบบนักเรียนที่เซ็กซี่ที่สุดจากการสำรวจของสื่อญี่ปุ่น
ชาวเน็ตแสดงปฏิกิริยาตอบรับอย่างร้อนแรงเกี่ยวกับเครื่องแบบนักเรียนของไทย
สื่อ ของญี่ปุ่นหลายๆ ฉบับ ต่างกล่าวว่า เครื่องแบบนักเรียนเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องได้รับการประเมิน เนื่องจากเครื่องแบบนักเรียนก็กลายมาเป็นหนึ่งในแฟชั่นอีกประเภทเช่นกัน โดยได้จัดทำการสำรวจขึ้น ซึ่งผลการสำรวจ สื่อญี่ปุ่นได้ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 21 มกราคม ว่า เครื่องแบบนักเรียนของไทย เป็นเครื่องแบบนักเรียนที่เซ็กซี่ที่สุด เพราะส่วนของเสื้อเชิ้ตจะโชว์ให้เห็นถึงสัดส่วนของร่างกาย ส่วนกระโปรงก็สั้นมาก โดยมีความยาวไม่ถึง 20 เซนติเมตร
หลังจากมีผลการสำรวจชิ้นนี้ออกมา บรรดาชาวไซเบอร์ของญี่ปุ่นต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ชุดเค รื่องแบบนักเรียนของไทย บ้างก็ว่าชุดสั้นเกินไป รัดเกินไป ไม่น่าจะเป็นเครื่องแบบนักเรียนได้ อีกส่วนก็มองว่า การใส่ชุดรัด ๆ สั้น ๆ แบบนี้ อาจทำให้คดีข่มขืน หรืออาชญากรรมความรุนแรงทางเพศเพิ่มขึ้นได้ ขณะที่บางคนก็ออกมาแย้งว่า ชุดที่เห็นเป็นชุดนักศึกษามหาวิทยาลัย ไม่ใช่เครื่องแบบของนักเรียน นอกจากนี้ยังมีคนวิจารณ์ด้วยว่า โชคดีที่ไม่เกิดในประเทศไทย เพราะไม่อยากใส่ชุดแบบนี้นั่นเอง
เมื่อบทความ นี้ถูกเผยแพร่ออกมา ชาวเน็ตเกาหลีกล่าวแสดงความคิดเห็นว่า
ประเทศเราก็เปลี่ยนมั่งเถอะ”,
นี่เป็นจุดเปลี่ยนทัศนคติของฉันเกี่ยวกับประเทศไทยเลยนะนี่”,
ประเทศเราก็รีบนำเข้ามาเร็วๆ เถอะ
ต่างกล่าวต้อนรับเครื่องแบบนักเรียนของไทย
แต่ในขณะเดียวกัน ชาวเน็ตส่วนใหญ่กลับแสดงปฏิกิริยาไม่เห็นด้วย อาทิ
มันรัดเกินไปนะ”,
นั่นเครื่องแบบนักเรียนเหรอ มันจะไม่ทำให้เกิดอาชญากรรมความรุนแรงทางเพศขึ้นเหรอ”,
รู้สึกว่านั่นจะเป็นความหมายที่ต้องการสื่อแบบผิดๆนะ จริงๆแล้ว ชุดนั้นเป็นเครื่องแบบของนักศึกษาไทย ไม่ใช่เครื่องแบบของนักเรียน”,
ประมาณ 70% ของนักเรียนคงรู้สึกอยากจะสวมชุดนั้นน่ะนะ
อนึ่ง ชาวเน็ตเพศหญิงกล่าวว่า
โชคดีจังที่ไม่ได้เกิดที่ประเทศไทย”,
ถ้าฉันใส่ชุดนั้น คงจะถูกว่าว่าไม่น่าดู แล้วไม่รู้ว่าจะถูกไล่ออกไปรึเปล่า